วันศุกร์ที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2559
วันพฤหัสบดีที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2559
วันพุธที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2559
การแยกสารเนื้อเดียว
1.การตกผลึก(Crystallization)
การตกผลึก เป็นการแยกของแข็งที่ละลายอยู่ในของเหลว โดยทำให้เป็นสารละลายอิ่มตัว แล้วปล่อยให้สารละลายเย็นตัวลงอย่างช้าๆจะได้ของแข็งตกผลึกออกมา ใช้สำหรับแยกของแข็งที่ปนกันอยู่หลายชนิดออกจากกันได้ สารที่ละลายได้น้อยกว่าจะถึงจุดอิ่มตัวก่อน จึงตกผลึกออกมาได้ก่อน ส่วนสารที่ละลายได้ดีกว่าจะถึงจุดอิ่มตัวหลัง จึงตกผลึกออกมาช้ากว่า
เช่น - การแยกเกลือชนิดต่างๆออกจากน้ำทะเล
- การแยกสารละลายของแนฟทาลีนและกรดเบนโซอิกในเอทานอล
1.การตกผลึก(Crystallization)
การตกผลึก เป็นการแยกของแข็งที่ละลายอยู่ในของเหลว โดยทำให้เป็นสารละลายอิ่มตัว แล้วปล่อยให้สารละลายเย็นตัวลงอย่างช้าๆจะได้ของแข็งตกผลึกออกมา ใช้สำหรับแยกของแข็งที่ปนกันอยู่หลายชนิดออกจากกันได้ สารที่ละลายได้น้อยกว่าจะถึงจุดอิ่มตัวก่อน จึงตกผลึกออกมาได้ก่อน ส่วนสารที่ละลายได้ดีกว่าจะถึงจุดอิ่มตัวหลัง จึงตกผลึกออกมาช้ากว่า
เช่น - การแยกเกลือชนิดต่างๆออกจากน้ำทะเล
- การแยกสารละลายของแนฟทาลีนและกรดเบนโซอิกในเอทานอล
- การแยกเกลือและน้ำตาลที่ละลายอยู่ในน้ำ
2.การกลั่น(Distillation)
การกลั่น เป็นการแยกของเหลวที่ปนกับของแข็งในสารละลายออกจากกัน โดยให้ความร้อนแก่สารละลาย ของเหลวเมื่อได้รับความร้อนจะกลายเป็นไอแล้วผ่านไอไปยังเครื่องควบแน่น
(Condenser)ไอจะควบแน่นกลับเป็นของเหลวที่กลั่นได้
เนื่องจาก: ของเหลวมีจุดเดือดต่ำ ระเหยเป็นไอได้ง่ายจึงกลั่นตัวออกมาได้ ส่วนของแข็ง จุดเดือดสูงกว่ามากจึงยังคงอยู่ในสารละลาย แต่ถ้ากลั่นต่อไปเรื่อยๆจะมีของแข็ง ตกผลึกอยู่ก้นภาชนะ
เช่น - การแยกน้ำจากน้ำทะเล
- การแยกน้ำจาน้ำเกลือหรือน้ำเชื่อม
การกลั่นตามวิธีดังกล่าวข้างต้นเป็นการกลั่นอย่างง่ายเรียกว่า ' การกลั่นแบบธรรมดา ' แต่ถ้าในสารละลายมีของเหลวปนกันอยู่หลายชนิด และมีจุดเดือดใกล้เคียงกันจะต้องใช้วิธีการกลั่นที่เรียกว่า ' การกลั่นลำดับส่วน '
การกลั่นลำดับส่วน เป็นการกลั่นแยกของเหลวที่มีจุดเดือดใกล้เคียงกันออกจากสารละลาย โดยให้ความร้อนแก่สาร ไอของสารระเหยขึ้นไปผ่านเครื่องมือที่เป็นคอลัมน์ จะทำให้ไอแยกออกเป็นส่วนๆตามช่วงอุณหภูมิ สารที่มีจุดเดือดต่ำจะระเหยขึ้นไปทางตอนบนของคอลัมน์ ส่วนสารที่มีจุดเดือดสูงกว่าจะอยู่ทางตอนล่างของคอลัมน์
เช่น - การกลั่นน้ำมันดิบ หรือน้ำมันปิโตรเลียม
- การแยกเอทานอล เฮกเซน และไทลูซีนออกจากกัน
โครมาโทกราฟี เป็นวิธีการแยกสารและวิเคราะห์สารที่มีปริมาณน้อยได้ดี มีองค์ประกอบ 2 ส่วน คือ
1. ตัวทำละลาย(Mobile phase) เป็นตัวพาสารให้เคลื่อนที่ไปได้ เช่น น้ำเกลือ เอทานอล ในน้ำ
2. ตัวดูดซับ(Stationary phase) เป็นตัวดูดซับสารในระหว่างที่เคลื่อนที่ไป เช่น กระดาษกรอง แท่งชอล์ก ผงอะลูมินา
วิธีการนี้จึงอาสัยสมบัติเกี่ยวกับการละลายในตัวทำละลายได้ต่างกัน และการถูกดูดซับด้วยตัวดูดซับได้ต่างกันด้วย
การแยกสารเนื้อผสม
1.การกรอง(Filtration)
การกรอง เป็นวิธการแยกของแข็ง หรือตะกอนออกจากของเหลว หรือสารละลายโดยผ่านสารลงบนกระดาษกรอง ตะกอนหรือของแข็งจะตกค้างอยู่บนกระดาษกรอง ส่วนของเหลวและสารละลายจะผ่านกระดาษกรองลงสู่บิกเกอร์
การกรองเป็นการแยกที่มีขนาดใหญ่ออกจากของเหลวหรือสารละลาย ซึ่งสารที่กรองได้อาจไม่ใช่สารบริสุทธิ์ แต่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ เช่น การกรองน้ำผ่านเครื่องกรอง
2.การระเหิด
การระเหิด เป็นการเปลี่ยนแปลงของสารจากของแข็งเป็นแก๊ส โดยไม่เปลี่ยนเป็นของเหลวก่อน สารบางชนิดที่สามารถระเหิดได้ เช่น แนฟทาลีน(ลูกเหม็น) พิมเสน การบูร ในการแยกสารผสมดังกล่าวปนอยู่จึงสามารถใช้วิธีการระเหิดได้
3.การใช้แม่เหล็ก
เป็นการแยกสารออกจากของผสม โดยสารที่แยกต้องมีสมบัติดึงดูดกับแม่เหล็กได้ เช่น
- การแยกผงตะไบเหล็กออกจากผงกำมะถัน
- การแยกเหล็กออกจากสินแร่ในธรรมชาติ
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)